1. ข้อใดคือ หลักการของBiosafety Cabinet (BSC) หรือตู้ชีวนิรภัย
ก. เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานจากการสัมผัสเชื้อ โดยการสูดดมหรือจากการกระเด็นของละออง
ของเหลวที่มีเชื้อปนเปื้อน
ข. ป้องกันการปนเปื้อนขณะปฏิบัติงาน
ค. ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อสู่คนอื่น และสู่สิ่งแวดล้อม
ง. ถูกทุกข้อ
2. ในการทดลองที่ใช้สารเคมีที่มีไอระเหย/ก่อควันพิษ ท่านควรทําการทดลองที่ใดเหมาะสมที่สุด
ก. ห้องปฏิบัติการที่มีพัดลมถ่ายเท
ข. ที่โล่งแจ้ง
ค. ตู้ดูดควัน
ง. ตู้ดูดอากาศกรองเชื้อที่ได้มาตรฐาน (biosafety cabinet)
3.ข้อใดเป็นการกระทําที่ไม่สอดคล้องกับหลักการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
ก. ไม่รับประทานอาหารและดื่มน้ําในห้องปฏิบัติการ
ข. หมั่นคิดค้นและออกแบบการทดลองใหม่ๆ อยู่เสมอ
ค. ไม่ทําปฏิบัติการในห้องปฏิบัติการตามลําพัง
ง. ศึกษาคู่มือปฏิบัติการอย่างถี่ถ้วนก่อนเริ่มปฏิบัติการใดๆ
4.การใช้เครื่องป้องกันส่วนบุคคล ข้อใดที่ไม่เหมาะสมสําหรับการทดลองที่ระบุ
ก.แว่นตานิรภัย – ทุกการทดลอง
ข. รองเท้าหุ้มส้น – ทุกการทดลอง
ค. ถุงมือยาง – การทดลองที่เกี่ยวกับการหยิบจับของร้อน
ง. ผ้าปิดจมูก – การทดลองที่เกี่ยวกับสารที่ให้ไอระเหยเป็นพิษ
5. การสวมใส่ถุงมือ ควรใช้ในกรณีใดบ้าง
ก. โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อรับตัวอย่าง
ข. เปิด Computer เพื่อรายงานผลการทดสอบ
ค. จดบันทึกรายละเอียดของตัวอย่าง
ง. สัมผัสตัวอย่างในขณะทดสอบ
6. โอกาสติดเชื้อในห้องปฏิบัติการเกิดได้ในข้อใดบ้าง
ก. เกิดการตกแตกของหลอดเชื้ออ้างอิงในห้อง
ข. ถูกเข็มตําขณะเตรียมตัวเพื่อเจาะเลือดสัตว์
ค. ไม่ได้ใส่ mask ในขณะทดสอบแอนติบอดีในซีรัม
ง. ไม่ใส่ lab coat ในขณะเตรียมน้ํายาเลี้ยงเชื้อ
7. ข้อใดเป็นวิธีปฏิบัติแรกสุดที่ควรทําเมื่อกรกซัลฟิวริกเข้มข้นหกรดมือ
ก. ล้างด้วยน้ําทันที
ข. ซับกรดออกให้มากที่สุดด้วยผ้าหรือกระดาษชําระก่อนล้างด้วยน้ํา
ค. ล้างด้วยสารละลาย NaOHเจือจาง
ง. รอแจ้งผู้ควบคุมห้องปฏิบัติการ
8.สิ่งใดต่อไปนี้สามารถทิ้งลงอาางน้ําทิ้งได้
ก. สารละลายหลังการไตเตรทกรดไฮโดรคลอริกด้วยสารลายมาตรฐาน NaOH ปริมาตร 100 ml
ข. สารละลายที่ได้จากการทดสอบแคทไอออนที่มีโครเมียมเป็นองค์ประกอบ 5 ml
ค. คลอโรฟอร์มที่เทออกมามากเกินพอ 10 ml
ง. เกลือโซเดียมไซยาไนด์ที่ทําหก 1 ช้อนชา
9. ห้องปฏิบัติการควรมีโซเดียมไบคาร์บอเนต และ/หรือ แอมโมเนียมฟอสเฟต ไว้ในปริมาณที่มากพอสมควรเพื่ออะไร
ก. ใช้ดับเพลิงที่ลุกไหม้จากสารเคมี
ข. เป็นสารเคมีที่ใช้บ่อยในการทําปฏิกิริยา
ค. ใช้สะเทินกรดเข้มข้นก่อนทิ้งลงท่อน้ํา
ง. ใช้โรยเพื่อดูดซับสารเคมีที่หก
10.ข้อใดควรหลีกเลี่ยงในการทําปฏิบัติการ
ก.การต้มหรือให้ความร้อนแก่ตัวทําละลายอินทรีย์จุดเดือดต่ํา
ข.การทดสอบด้วยการสูดดมกลิ่นของสารเคมี
ค.การผสมกรดเข้มข้นกับน้ํา
ง.การต่อเครื่องแก้วหลายๆ ชิ้นเข้าด้วยกัน
11. อุปกรณ์ใดวัดปริมาตรที่มีความแม่นสูง
1.บิวเรตต์ 2.ปิเปตต์
3.บีกเกอร์ 4.กระบอกตวง
12. สัญลักษณ์ความเป็นอันตรายในระบบNFPA
สีแดงความหมายตรงกับข้อใด
1.ไวไฟ 2.อันตรายต่อสุขภาพ
3.ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี 4.สารกัดกร่อน
13. สัญลักษณ์ GHS ดังกล่าวความหมายตรงกับข้อใด
1.วัตถุระเบิด 2.สารไวไฟ
3.สารกัดกร่อน 4.อันตรายต่อสุขภาพ
14. สัญลักษณ์ GHS ดังกล่าวความหมายตรงกับข้อใด
1.สารไวไฟ 2.วัตถุระเบิด
3.สารกัดกร่อน 4.อันตรายต่อสุขภาพ
15. ข้อใดควรปฏิบัติในห้องปฏิบัติการเคมี
ก.รับประทานอาหาร
ข.วิ่งเล่น
ค.จุดตะเกียงแอลกอฮอล์ทิ้งไว้
ง.ใช้อุปกรณ์ในการปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง
16. ข้อใดไม่ใช่ข้อปฏิบัติในการใช้สารเคมี
ก.อ่านชื่อสารเคมีบนฉลากให้แน่ใจก่อนใช้สารเคมี
ข.การเคลื่อนย้าย การถ่ายเทสารเคมีอย่างระมัดระวัง
ค.การทดลองสารในหลอดทดลอง ต้องหันปากหลอดเข้าหาตัวเองและผู้อื่น
ง.ห้ามชิมหรือสูดดมสารเคมีโดยตรง
18. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย
ก.เครื่องดับเพลิง
ข.อ่างล้างของ
คสัญญาณเตือนภัย
ง.ที่ล้างตัวฉุกเฉิน
19. ข้อใดเป็นเทคนิคการสูดดมไอของสารเคมีที่ถูกต้อง
ก.เอาจมูกสูดดมโดยตรงเพื่อให้ได้กลิ่นอย่างชัดเจน
ข.เอาภาชนะบรรจุสารเคมีห่างจากตัวประมาณ 1 นิ้ว แล้วโบกพัดไอเข้าหาจมูก
ค.เอาภาชนะบรรจุสารเคมีห่างจากตัวประมาณ 3 นิ้ว แล้วโบกพัดไอเข้าหาจมูก
ง.เอาภาชนะบรรจุสารเคมีห่างจากตัวประมาณ 6 นิ้ว แล้วโบกพัดไอเข้าหาจมูก
20. ข้อใดเป็นการใช้ตู้ควันที่ผิด
ก.ยื่นศีรษะเข้าไปดูในตู้ควันว่ามันทำงานหรือยัง
ข.ตั้งอุปกรณ์และชุดทดลองให้ลึกเข้าไปในตู้ควัน
ค.ทำความสะอาดพื้นและหน้าต่างกระจกทันทีที่สารเคมีกระเด็นเปื้อน
ง.หลังใช้งานเสร็จ ดึงกระจกลงมาให้อยู่เหนือพื้นตู้ประมาณ 1-2 นิ้ว